แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะมีผลข้างเคียงน้อย ปลอดภัย ไม่ค่อยมีปัญหาถ้าหากฉีดฟิลเลอร์แท้ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ หลังจากฉีดฟิลเลอร์จึงมีข้อห้ามที่ควรงดกระทำหรือหลีกเลี่ยง เพื่อให้ฟิลเลอร์คงอยู่กับเราได้นานที่สุด อีกทั้งยังลดปัญหาอื่นๆ ที่อาจตามมาได้หลังจากฉีดฟิลเลอร์

 

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์

ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์บริเวณใด ทั้งฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์แก้ม ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ปาก หรือฟิลเลอร์คาง ข้อห้ามดังต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น

 

  1. ห้ามสัมผัส แกะ เกา จับ ลูบ นวด คลึง หรือกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไป

เนื่องจากอาจทำให้แผลบริเวณดังกล่าวเกิดการอักเสบมากขึ้นกว่าเดิม และทำให้รู้สึกเจ็บปวดยิ่งขึ้นด้วย อีกทั้งการกดทับหรือนวดคลึงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ยังอาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลหรือเคลื่อนออกไปจากจุดที่ต้องการ ซึ่งทำให้ส่วนที่ควรได้ทรงสวยตามที่แพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามประเมินไว้แล้วบิดเบี้ยวได้

แต่ถ้าหากผ่านไปเกิน 3 วันแล้วยังรู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไป ควรกลับไปที่คลินิกเสริมความงามที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อขอรับยาเพิ่มหรือปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม

 

  1. ห้ามดื่มเครื่องดื่มและอาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่ควรงดเครื่องดื่มและอาหารที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก่อนอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ถ้าให้ดีที่สุดควรงดเป็นเวลา 14 วัน

สาเหตุที่ควรงดเว้นเครื่องดื่มและอาหารที่มีแอลกอฮอล์เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เส้นเลือดขยายตัวมากขึ้น จึงส่งผลให้แผลหายช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจทำให้แผลเกิดการอักเสบได้

 

  1. ห้ามทำกิจกรรมที่อยู่ในสถานที่ร้อนๆ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้หน้าแดง

ยกตัวอย่าง เช่น เข้าซาวน่า ทำทรีตเมนต์ ทำเลเซอร์ต่างๆ การรับประทานหม้อไฟ หมูกระทะ หรือทำอาหารที่ต้องอยู่ใกล้เตามากๆ เหล่านี้ควรงดเว้นอย่างน้อย 1 เดือน ส่วนการออกกำลังกายหนักๆ หรือตากแดดควรงดหรือหลีกเลี่ยงในช่วง 48 ชั่วโมงแรง เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

 

  1. ห้ามรับประทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออกง่ายขึ้น

แอสไพริน ใบแป๊ะก๊วย วิตามินอี สารที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA และ Retinoid เหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงและงดเว้นตลอด 14 วันแรก เนื่องจากมีผลต่อเลือดและบาดแผล เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แผลอักเสบ หายช้าลง และอาจทำให้แผลบวม ห้อเลือด

 

  1. ห้ามประคบร้อนโดยเด็ดขาด

ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใด ทั้งฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือฟิลเลอร์ส่วนอื่นๆ ไม่ควรประคบร้อนอย่างยิ่ง เนื่องจากความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น หากเป็นไปได้ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามที่คุณเข้ารับบริการ

 

  1. ในกรณีฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดการดึงหรือลอกหนังริมฝีปากด้วย

เพราะการลอกผิวบริเวณริมฝีปากออกจะทำให้ผิวปากบางลง ซึ่งส่งผลต่อการกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นในริมฝีปาก นอกจากนี้ไม่ควรใช้หลอดดูดน้ำ ไม่ควรทาลิปสติก หรือสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของการฉีดฟิลเลอร์ปากลดลง ริมฝีปากอาจไม่อวบอิ่มเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น และในช่วง 12 ชั่วโมงแรกยังต้องระมัดระวังการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนๆ ด้วย เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ปากบวมและอักเสบมากกว่าเดิม

 

หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเพื่อฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic ได้ทางช่องทางต่อไปนี้

Facebook : https://www.facebook.com/kethatclinic

Website: https://kethat.com/price-promotion/

LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)