สำหรับคนที่ต้องการเสริมคางเพื่อให้ได้รูปหน้าดูเรียวสวยสมดุล ตัวเลือกหลักๆ มีอยู่สองอย่าง ได้แก่ การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ และการเสริมคางด้วยซิลิโคน ซึ่งการเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้นเป็นการผ่าตัดเล็กเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปเสริมให้คางได้รูปทรงอย่างที่ต้องการ แต่มีหลายคนยังไม่มั่นใจว่าตัวเองควรเสริมคางหรือไม่ เหมาะกับหน้าหรือไม่ แม้จะมีแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามให้คำปรึกษาแล้วก็ตาม ดังนั้นหากยังไม่มั่นใจ ขอแนะนำให้เลือกเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ก่อน

 

การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ดีอย่างไร

การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์นั้นให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการเสริมคางด้วยซิลิโคน แต่ข้อดีของการเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ก็คือ “ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด” และ “ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน” อีกทั้งยัง “เห็นผลได้อย่างชัดเจน” เพียงแค่ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำคลินิกเสริมความงามฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณคางก็ทำให้ดูมีคางมากขึ้น ใบหน้าดูเรียวสวยมากขึ้น และยังช่วยให้เห็นภาพว่าถ้าเรามีคางมากขึ้นกว่าเดิมจะได้รูปหน้าอย่างไร

ข้อดีของการเสริมคางด้วยฟิลเลอร์อีกอย่างคือ หากเราไม่พอใจคางหรือรูปหน้าที่ได้จากการเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวอีกครั้งเพื่อแก้ไข เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติโดยใช้เวลาประมาณ 12 – 18 เดือน นอกจากนี้การเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ยังมีราคาที่เบากว่าการผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคนอีกด้วย

ดังนั้นการเสริมคางด้วยฟิลเลอร์จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเสริมคางแบบถาวรดีหรือไม่ เพราะหากไม่ถูกใจก็สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่า

 

ถ้าเสริมคางด้วยฟิลเลอร์แล้วถูกใจ สามารถเปลี่ยนเป็นเสริมคางด้วยซิลิโคนแบบถาวรได้หรือไม่

ถ้าหากลองเสริมคางด้วยฟิลเลอร์แล้วพบว่าทำให้รูปหน้าของเราสวยมากขึ้น เสริมความมั่นใจมากขึ้น ก็สามารถเสริมคางถาวรด้วยซิลิโคนได้เช่นกัน เพียงแต่จำเป็นต้องรอให้ฟิลเลอร์สลายไปจนหมดเสียก่อนจึงจะเสริมคางด้วยซิลิโคนได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ส่งผลต่อการยึดเกาะของซิลิโคนที่จะนำมาเสริมคาง

 

เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องเสริมคางด้วยฟิลเลอร์

แม้ว่าการเสริมคางด้วยฟิลเลอร์จะไม่คงอยู่ถาวรและสลายไปได้ แต่ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ดังนี้

  1. เลือกคลินิกเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์เสริมคางโดยเฉพาะ เนื่องจากการเสริมคางจำเป็นต้องใช้ความชำนาญและเทคนิคที่เหมาะสมเพื่อให้คางดูเนียน ไม่เป็นคลื่น
  2. หาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ให้รอบด้านเพื่อจะได้ตัดสินใจอย่างเหมาะสมที่สุด
  3. เมื่อเลือกคลินิกเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แล้ว ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน เพื่อทำการประเมินว่าจะใช้ฟิลเลอร์เสริมคางในปริมาณเท่าไรจึงจะเหมาะสม
  4. ถ้าตกลงใจว่าจะเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ ควรงดยาแอสไพริน, วิตามิน E, NSAIDs หรือยาอื่นๆ ที่แพทย์ให้งด นอกจากนี้ยังควรงดการดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้ความดันโลหิตเพิ่ม
  5. ควรแจ้งให้แพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามทราบว่ามีโรคประจำตัวใดบ้าง และแพ้ยาอะไรบ้าง
  6. หากมีคอร์สเกี่ยวกับการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการเกี่ยวกับหน้าควรทำก่อนมาฉีดฟิลเลอร์คางอย่างน้อย 3 วัน
  7. สามารถแต่งหน้ามาเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ได้ เพียงแต่ทางคลินิกเสริมความงามจะทำความสะอาดผิวก่อนทุกครั้ง
  8. เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็สามารถเข้าพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ประจำคลินิกเสริมงามที่ดูแลทั้งก่อนและหลังเสริมคางด้วยฟิลเลอร์

 

หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเพื่อฉีดฟิลเลอร์เสริมคางโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic ได้ทางช่องทางต่อไปนี้

Facebook: https://www.facebook.com/kethatclinic

Website: https://kethat.com/price-promotion/

LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)