มลภาวะ ความเครียด ภาระงานอันหนักหน่วง และอายุที่มากขึ้น ทำให้หลายคนประสบปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย เนื่องจากสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินจากสาเหตุที่กล่าวไปในข้างต้น แต่ปัญหาเหล่านั้นแก้ไขได้ ด้วยเทคนิคยกกระชับใบหน้ายอดนิยม ทั้งโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ และ Ulthera ซึ่งแต่ละวิธีเหมาะกับใครบ้างนั้น เรามาดูกัน
การยกกระชับหน้าด้วยโบท็อกซ์ (ลิฟต์กรอบหน้า)
โบท็อกซ์ (Botox) คือ การฉีดโบทูลินั่มท็อกซินซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้บริเวณที่มีกล้ามเนื้อโตหดเล็กลง โดยมากนิยมใช้สำหรับฉีดเพื่อลดกราม แต่สำหรับการยกกระชับหน้าด้วยโบท็อกซ์ ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีดโบท็อกซ์เข้าที่บริเวณกล้ามเนื้อกรอบหน้า หรือที่เรียกกันว่า ลิฟต์กรอบหน้า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยดึงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าให้ตึงขึ้น ช่วยให้ผิวกระชับ เห็นกรอบหน้าชัดเจน
โบท็อกซ์เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ และมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้าใหญ่
ข้อดี
- ปลอดภัย แทบไม่มีผลข้างเคียง
- เห็นผลไว โดยจะเห็นผลเต็มที่ใน 1 – 2 สัปดาห์
- กรอบหน้าชัดขึ้น กรามลดลง หน้าเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ช่วยลดริ้วรอย ให้ผิวเต่งตึง
- ราคาไม่สูงมากนัก
ข้อเสีย
- อยู่ได้ 3 – 4 เดือนซึ่งน้อยกว่าการลิฟต์กรอบหน้าด้วยฟิลเลอร์หรือ Ulthera
- อาจไม่ได้ผลจากปัญหาการดื้อยา
- เนื่องจากได้รับความนิยมสูง จึงต้องระมัดระวังเรื่องของปลอม
การยกกระชับหน้าด้วยฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ โดยมากมักใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม มีร่องลึก เว้าแหว่ง ซึ่งจะช่วยให้ผิวบริเวณดังกล่าวเต่งตึง ฟิลเลอร์สามารถใช้ยกกระชับใบหน้าได้เช่นกัน ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังบริเวณที่มีปัญหาเหี่ยวย่น หย่อนยาน เช่น ร่องน้ำตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ และบริเวณอื่นๆ เพื่อทดแทนคอลลาเจนและอิลาสตินที่ผิวเสียไป
ฟิลเลอร์เหมาะกับ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าด้วยการเติมผิวให้เต็มและเต่งตึง ผู้มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยที่ต้องการเติมเต็มใต้ชั้นผิว ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกยุบ สูญเสียไขมันใต้ผิว ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึกในบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา ร่องน้ำหมาก แก้มตอบ เป็นต้น
ข้อดี
- ปลอดภัย แทบไม่มีผลข้างเคียง
- ช่วยให้ใบหน้าเต่งตึง ดูมีมิติ เนียนตา
- เห็นผลทันทีหลังทำ
- คงอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี
- ช่วยลดริ้วรอย ให้ผิวเต่งตึง
ข้อเสีย
- มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ค่อนข้างมากในการยกกระชับใบหน้า
- เนื่องจากได้รับความนิยมสูง จึงต้องระมัดระวังเรื่องของปลอม
การยกกระชับใบหน้าด้วย Ulthera
Ulthera คือ การยิงคลื่นอัลตราซาวด์ระดับความถี่สูงอย่างเฉพาะเจาะจง (High Intensity Focused Ultrasound) ลงไปในชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ใช้ผ่าตัดดึงใบหน้าในบริเวณกรอบหน้า ทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวกระชับขึ้นโดยที่แทบไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เลย และเห็นผลได้ชัดเจนในช่วงประมาณ 3 – 6 เดือน
Ulthera เหมาะกับ ผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป และมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย กรอบหน้าไม่ชัด หนังตาตก คิ้วตก และมีเหนียงใต้คาง ซึ่งต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ผ่าตัด
ข้อดี
- มีความปลอดภัยสูง
- เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 30%
- ช่วยลดริ้วรอย ให้ผิวเต่งตึง
- ไม่เหลือรอยแผลหรือร่องรอยหลังทำ
- พักฟื้นไม่นาน
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปีหรือมากกว่านั้นหากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ข้อเสีย
- ระหว่างทำอาจเจ็บบ้าง
- อาจมีอาการบวมประมาณ 1 สัปดาห์ แต่จะหายได้เอง
- ราคาค่อนข้างสูงในการทำแต่ละครั้ง
หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องยกกระชับผิวหน้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic ได้ทางช่องทางต่อไปนี้
Facebook : https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)