ไม่ว่าตอนนี้ใครจะมีริ้วรอยบนใบหน้า มีใบหน้าที่หย่อนคล้อยตามวัย หรือปัญหาผิวอื่นๆ KeThat Clinic มีคำแนะนำที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียน ใส ไร้ริ้วรอยมาฝากกัน นั่นคือการทำโบท็อกซ์และเมโสแฟต

Botox ต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยได้ยาวนาน

โบท็อกซ์คือการปกปิดริ้วรอยบนใบหน้า ที่ช่วยหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและทนต่อริ้วรอยได้มากขึ้น ด้วยการฉีดสาร Botulinum Toxin เพื่อยกกระชับบริเวณกรอบหน้า ลดกราม ให้ใบหน้าเรียวเล็กได้รูป เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการจัดการกับปัญหาริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า ทั้งรอยตีนกา และรอยเหี่ยวย่น ซึ่งวิธีนี้จะคงอยู่ได้ยาวนาน เพราะเมื่อบางส่วนบนใบหน้าขยับไม่ได้ ก็จะสร้างรอยย่นไม่ได้

เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวก็จะมีความยืดหยุ่นน้อยลง อีลาสตินและคอลลาเจนจะลดลง และการที่เรามีผิวหย่อนคล้อยนั้นก็จะทำให้เราดูแก่กว่าและเกิดริ้วรอยได้ด้วย การทำโบท็อกซ์จึงนับว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดเนื่องจากสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนังได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ สามารถใช้จัดการกับริ้วรอยได้ทุกรูปแบบบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นที่หน้าผาก รอย ขมวด คิ้ว ตีนกา ร่องแก้ม ให้ริ้วรอยหายไป ทั้งยังคงอยู่ได้ยาวนานหลายเดือน โดยไม่ต้องผ่าตัด และหลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น

การทำโบท็อกซ์ครั้งแรกจะคงอยู่ได้นาน 4-6 เดือน หลังจากนั้นหากมาทำซ้ำจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน

Meso Fat ช่วยให้ใบหน้ากระชับขจัดริ้วรอยแห่งวัย

เมโสแฟต คือการสลายไขมันและเซลลูไลท์ที่สามารถฉีดที่ไหนก็ได้ตามร่างกาย ซึ่งหากต้องการขจัดริ้วรอยและกระชับใบหน้าก็สามารถใช้ Meso Fat แก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน บริเวณของร่างกายที่สามารถใช้ Meso Fat จัดการไขมันได้เช่น แก้ม เหนียง กรอบหน้า ด้วยการฉีดวิตามินเข้าไปในชั้นไขมันเพื่อกระตุ้นให้ไขมันสะสมถูกขับออกมาเป็นของเหลว และขับออกจากร่างกายเป็นของเสีย เพื่อช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้มีรูปร่างที่เหมาะสมและเรียบเนียน ลดเซลลูไลท์โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

หลายคนนิยมเลือกการทำเมโสแฟต เพราะเป็นวิธีที่ดีและปลอดภัย เนื่องจากลดการสะสมของไขมันและเซลลูไลท์ในบริเวณที่รับการรักษาเป็นปัญหาหลักของการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดแดง ซึ่งทำให้เนื้อเยื่อไขมันเสียหาย ทำให้เกิดไขมันใต้ผิวหนังในลักษณะที่คล้ายกับผิวส้ม ซึ่งการกระจายตัวของไขมันและเนื้อเยื่อที่ไม่สม่ำเสมอจะเปลี่ยนแปลงลักษณะที่ปรากฏบนผิวหนังและเป็นที่มาของการเกิดเซลลูไลท์ นอกจากนี้เนื้อเยื่อรวมทั้งคอลลาเจนและอีลาสตินก็จะถูกทำลายด้วยเช่นกัน ดังนั้น การทำ Meso Fat จะช่วยแก้ปัญหาเซลลูไลท์ได้อย่างเหมาะสม

การฉีดเมโสแฟตจะอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง การใช้ชีวิต และการกินอาหารด้วย

เราเหมาะกับการทำแบบไหน ?

แพทย์จะเป็นผู้ประเมินใบหน้าว่ามีปัญหาในส่วนใด สามารถลดกล้ามเนื้อหรือไขมันได้หรือไม่ หากใครมีกล้ามเนื้อหรือมีริ้วรอยบนใบหน้ามาก แพทย์จะแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ แต่หากบริเวณใบหน้ามีไขมันสะสมมาก เช่น มีแก้มและเหนียงเยอะ และต้องการให้ใบหน้าเรียว แพทย์จะแนะนำให้ฉีดเมโสแฟต แต่ทั้งนี้ถ้ากล้ามเนื้อใบหน้าไม่ใหญ่มากและไขมันไม่เยอะ ก็สามารถใช้ทั้งสองวิธีร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ความถี่ของการทำโบท็อกซ์และเมโสแฟตนั้นจะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้รับบริการ หากไม่ทำต่อเนื่อง ริ้วรอย ไขมันสะสม และขนาดของกล้ามเนื้ออาจกลับมาเหมือนเดิมได้

การฉีดโบท็อกซ์และเมโสแฟตนั้นได้รับการรับรองแล้วว่าปลอดภัยไม่อันตราย ทั้งยังสามารถสลายไปได้เอง เป็นเทคนิคที่ KeThat Clinic แนะนำในการทำเพื่อใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ บนใบหน้า ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะสนใจในการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอย หรือปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ หรือจะฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันบนใบหน้าก็ตาม แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษา หรือเข้ารับบริการกับคลินิกที่น่าเชื่อถือและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะ อย่าง KeThat Clinic เรามีแพทย์ที่มีใบรับรอง ให้คำปรึกษา ตอบคำถามให้สบายใจ แนะนำอย่างตรงจุด ปลอดภัย หายห่วงแน่นอน

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : https://www.healthline.com/health-news/botox-may-have-long-lasting-anti-aging-effects-study-suggests-052115

https://www.healthandaesthetics.co.uk/advice/whats-the-difference-between-botox-and-dermal-fillers/