การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นนอกจากจะช่วยให้ริมฝีปากของผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์อวบอิ่ม ได้รูปสวยแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากบาง มีร่องที่ริมฝีปากเยอะ รวมถึงมีปัญหาริมฝีปากแตกและแห้งอีกด้วย เนื่องจากฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ซึ่งหลายคนสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ปากกัน จนเรียกได้ว่าเป็นที่นิยมของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

แต่หลายคนคงสงสัยว่า ตามปกติแล้วควรใช้ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไหร่จึงจะเหมาะสมในการฉีดฟิลเลอร์ปาก วันนี้เรามีคำตอบ

 

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม

ตามปกติทางแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามจะประเมินปัญหาของผู้เข้ารับบริการก่อนว่า ริมฝีปากของผู้รับบริการมีปัญหาใดบ้าง เช่น ริมฝีปากบาง ริมฝีปากแตก ริมฝีปากไม่เท่ากัน หรือต้องการให้ได้รูปทรงที่สวยขึ้น อย่างเช่น ริมฝีปากกระจับ ริมฝีปากแบบเกาหลี หรือริมฝีปากอิ่มแบบที่ฝรั่งนิยม จึงจะระบุได้ว่าควรใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณเท่าไร่เพื่อฉีดฟิลเลอร์ปากในแต่ละเคส

ส่วนใหญ่แล้วปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปากจะอยู่ที่ 1 cc เท่านั้น แต่สำหรับบางเคสที่มีริมฝีปากบางมากๆ หรือต้องการปรับรูปปากมากๆ และเพิ่มเนื้อปากให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม เพิ่มมิติให้แก่ริมฝีปาก อาจต้องฉีดฟิลเลอร์ปากเพิ่มเป็น 2 cc

ดังนั้นการจะฉีดฟิลเลอร์ปากในปริมาณเท่าไหร่จึงขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามจะช่วยประเมินให้ก่อน แล้วจึงฉีดให้เป็นรูปทรงปากตามที่ผู้รับบริการต้องการ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ 1 – 2 cc ก็เพียงพอ

 

ฟิลเลอร์ปริมาณ 1 cc นี้มากน้อยแค่ไหน

ส่วนใหญ่ฟิลเลอร์หนึ่งกล่องจะบรรจุฟิลเลอร์เอาไว้ในปริมาณ 1 cc ซึ่งเป็นปริมาณมาตรฐาน แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ความจริงแล้วเมื่อใช้ฉีดยังบริเวณต่างๆ ปริมาณ 1 cc นี้กลับไม่ได้น้อยจนเกินไป โดยหากฉีดฟิลเลอร์ออกมากองบนผิวกระดาษ ฟิลเลอร์ปริมาณ 1 cc จะมีขนาดราวๆ เหรียญหนึ่งบาท ซึ่งปริมาณเท่านี้หากฉีดลงไปในผิวแล้วก็เพียงพอที่จะช่วยให้ผิวบริเวณดังกล่าวเต่งตึง มีน้ำมีนวลขึ้นมาได้อย่างชัดเจน

 

ฟิลเลอร์แบบไหนที่นิยมใช้ฉีดริมฝีปาก

ตามปกติฟิลเลอร์จะมีอยู่ด้วยกัน 3 เนื้อ คือเนื้อละเอียด เนื้อนิ่ม และเนื้อแข็ง ซึ่งฟิลเลอร์ทั้งสามเนื้อนี้ใช้ฉีดแต่ละบริเวณแตกต่างกัน

ส่วนใหญ่การฉีดฟิลเลอร์ปากมักนิยมใช้ฟิลเลอร์แบบเนื้อละเอียด กับฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนื่องจากช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปากได้มาก และยังมีความยืดหยุ่นสูง จึงทำให้ริมฝีปากของผู้รับบริการอิ่มและดูเนียนตา เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเป็นก้อนจนเกินไป

แต่ทั้งนี้ หากต้องการปรับรูปปากด้วย ทางแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามอาจใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งฉีดให้ เนื่องจากฟิลเลอร์เนื้อแข็งนั้นคงตัวได้ดี ทำให้ริมฝีปากอยู่ทรงและมีมิติ

 

การจะฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยฟิลเลอร์ชนิดไหน ยี่ห้อใด และในปริมาณเท่าไหร่นั้น ควรปรึกษากับแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงใจที่สุด

 

หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเพื่อฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic ได้ทางช่องทางต่อไปนี้

Facebook : https://www.facebook.com/kethatclinic

Website: https://kethat.com/price-promotion/

LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)