หนึ่งในวิธีที่จะช่วยปรับรูปหน้าเรียวสวยที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ก็คือ การลิฟต์กรอบหน้า ซึ่งหลายคนคงกำลังสงสัยว่าถ้าต้องการลิฟต์กรอบหน้าเพื่อยกกระชับให้ใบหน้าเรียวสมดุลแล้ว ควรเลือกลิฟต์กรอบหน้าด้วยโบท็อกซ์ (Botox) หรือฟิลเลอร์ (Filler) จะเหมาะสมกว่ากัน
ลิฟต์กรอบหน้าคืออะไร
การลิฟต์กรอบหน้าเป็นหัตถการอย่างหนึ่งที่จะช่วยยกกระชับใบหน้า ให้ผิวบริเวณกรอบหน้าตึงกระชับ ซึ่งช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น ใบหน้าจะดูเต่งตึง ได้รูปเรียวสวย และดูอ่อนเยาว์ลง จึงกลายเป็นที่นิยมของหลายๆ คนที่รักชอบด้านความสวยความงาม
ควรลิฟต์กรอบหน้าด้วยโบท็อกซ์ (Botox) หรือฟิลเลอร์ (Filler)
หลายคนอาจจะคุ้นกับเรื่องการใช้โบท็อกซ์ (Botox) ลิฟต์กรอบหน้ามากกว่าการใช้ฟิลเลอร์ (Filler) แต่ความจริงแล้วฟิลเลอร์ (Filler) ก็สามารถใช้ยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าได้เช่นกัน โดยก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจการทำงานและคุณสมบัติของทั้งโบท็อกซ์ (Botox) และฟิลเลอร์ (Filler) ว่าแตกต่างกันอย่างไร ดังนี้
โบท็อกซ์ (Botox) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า โบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) มีคุณสมบัติช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เข้าไปกล้ามเนื้อจึงลดขนาดและกระชับมากขึ้น การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) จึงเน้นช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อในบริเวณต่างๆ ของใบหน้า เช่น กราม หน้าผาก กรอบหน้า
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ทำให้บริเวณที่ฉีดเข้าไปเต่งตึง จึงเหมาะสำหรับการฉีดในบริเวณที่เว้าแหว่ง มีร่องลึก เช่น ขมับ หน้าผาก ใต้ตา ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง
จะเห็นว่าทั้งโบท็อกซ์ (Botox) และฟิลเลอร์ (Filler) มีคุณสมบัติแตกต่างกัน และประโยชน์ในการใช้งานก็ต่างกัน แต่ทั้งสองอย่างนี้สามารถใช้ในการปรับรูปหน้าและยกกระชับกรอบหน้าได้เหมือนกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลว่าเหมาะจะใช้อะไร
ข้อดีและข้อเสียของการลิฟต์กรอบหน้าด้วยโบท็อกซ์ (Botox)
- ราคาค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับการใช้ฟิลเลอร์ (Filler)
- ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย
- เห็นผลได้คมชัดภายใน 1 – 2 สัปดาห์
- เหมาะสำหรับใช้ในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการมีปัญหากล้ามเนื้อใหญ่ ต้องการลดกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้า
- การใช้โบท็อกซ์ (Botox) ยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าจะเห็นผลเพียง 3 – 4 เดือน
- สำหรับผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจพบปัญหาการดื้อยาที่ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ข้อดีและข้อเสียของการลิฟต์กรอบหน้าด้วยฟิลเลอร์ (Filler)
- ราคาค่อนข้างสูงกว่าการยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าด้วยโบท็อกซ์ (Botox) เพราะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ (Filler) ค่อนข้างมากในการทำแต่ละครั้ง
- เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ และดูเนียนตาเป็นธรรมชาติ
- จำเป็นต้องเลือกฟิลเลอร์ (Filler) ที่มีเนื้อเหมาะสำหรับการยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าโดยเฉพาะ
- แพทย์ผู้ทำหัตถการต้องมีความเชี่ยวชาญสูง เพราะการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เพื่อยกกระชับหน้าต้องอาศัยความแม่นยำในการประเมินรูปหน้าของแต่ละบุคคล
- การใช้ฟิลเลอร์ (Filler) ยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าจะเห็นผลได้นานถึง 1 – 2 ปี
- ไม่ค่อยมีผลข้างเคียง และไม่มีปัญหาการดื้อยา
การจะเลือกใช้โบท็อกซ์ (Botox) หรือฟิลเลอร์ (Filler) ในการยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ซึ่งต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำคลินิกเสริมความงามให้ละเอียดอีกครั้งว่าเราเหมาะกับการยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าด้วยวิธีใด
หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเพื่อยกกระชับหน้าและลิฟต์กรอบหน้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic ได้ทางช่องทางต่อไปนี้
Facebook : https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)