‘ฝ้า’ และ ‘กระ’ เป็นปัญหาผิวหน้าที่รักษาได้ยาก และคอยกวนใจให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง แม้จะดูแลผิวอย่างดีแล้วก็ยังมีโอกาสเกิดฝ้าหรือกระได้ บทความนี้ KeThat Clinic จะพาไปรู้จักกับ ‘ฝ้า’ และ ‘กระ’ ให้มากขึ้น เพื่อจะได้ป้องกันและรักษาได้อย่างถูกต้อง
‘ฝ้า’ และ ‘กระ’ คืออะไร
บางท่านอาจจะคิดว่าฝ้าและกระเป็นอย่างเดียวกัน ซึ่งที่จริงนั้นมีลักษณะต่างกันเล็กน้อย
ลักษณะของฝ้าจะเป็นสีดำอมน้ำตาลที่เข้มกว่าสีผิว และขึ้นบนผิวหน้าในลักษณะเป็นปื้นหรือเป็นแถบ มักขึ้นบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือคิ้ว หรือริมฝีปาก มี 4 ชนิดหลักๆ ได้แก่ ฝ้าลึก ฝ้าตื้น ฝ้าผสม และฝ้าที่ไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่าเป็นฝ้าชนิดใด
ส่วนลักษณะของกระนั้น จะเป็นจุดด่างดำขนาดเล็กๆ กลมๆ มีขอบชัดเจน กระจายตัวกันมากกว่าฝ้า มีสีดำอมน้ำตาลที่เข้มกว่าสีผิวเช่นเดียวกับฝ้า มักพบบริเวณแก้มและหน้าผาก ซึ่งมี 4 ชนิดหลักๆ เช่นกัน ได้แก่ กระตื้น กระลึก กระเนื้อ และกระแดด
‘ฝ้า’ และ ‘กระ’ เกิดจากอะไร
ทั้งฝ้าและกระเกิดจากสาเหตุเดียวกัน นั่นคือ เมลานินหรือเซลล์เม็ดสีทำงานอย่างผิดปกติ ส่วนมากเกิดจากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดเป็นเวลานานติดต่อกัน
ตามปกติเมลานินหริอเซลล์เม็ดสีนั้นจะผลิตขึ้นเพื่อช่วยป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตไม่ให้ผิวถูกทำร้ายมากเกินไป แต่ถ้าเราอยู่กลางแดดนานๆ และบ่อยๆ ผิวจะผลิตเมลานินออกมามากเกินความจำเป็น ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของสีผิว กลายเป็นฝ้าและกระนั่นเอง
นอกจากสาเหตุหลักคือรังสีอัลตราไวโอเลตแล้ว ฝ้าและกระยังเกิดได้จากสาเหตุอื่น เช่น
- การได้รับแสงจากหน้าจอมือถือ แสงไฟ หรือแสงจากโทรทัศน์เป็นเวลานาน
- พันธุกรรมก็เป็นผลทำให้เกิดฝ้าหรือกระได้
- อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้การทำงานของเซลล์ผิวหนังผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดกระเนื้อได้
- ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ ซึ่งเกิดจากการรับประทานยาคุม การพักผ่อนไม่เพียงพอ และความเครียด
‘ฝ้า’ และ ‘กระ’ รักษาได้ด้วยวิธีใดบ้าง
เนื่องจากฝ้าและกระเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเมลานินเหมือนกัน จึงมีวิธีการรักษาที่คล้ายกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุในการเกิดฝ้าและกระ ซึ่งในส่วนนี้ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญให้ดีก่อนเลือกวิธีการรักษา
วิธีการรักษานั้น มีดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
เนื่องจากแสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้าและกระ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง เช่น กางร่ม สวมหมวก หาที่กำบัง ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 PA+++ ขึ้นไป เมื่อต้องออกไปกลางแดด และไม่ควรอยู่กลางแจ้งต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
- รักษาด้วยยา
ฝ้าและกระบางชนิดสามารถรักษาได้ด้วยการทายา ซึ่งมักอยู่ในรูปแบบครีมที่มีส่วนผสมช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน เช่น ยากลุ่มทรานิซามิก ครีมหรือยาที่มีส่วนผสมของ AHA ไฮโดรควิโนน อาร์บูติน วิตามินซี และอื่นๆ การใช้ยานั้นจะเห็นผลค่อนข้างช้า และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกใช้
- รักษาด้วยสมุนไพร
คล้ายกับการรักษาด้วยยา คือต้องใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวหรือยับยั้งการสร้างเมลานิน แต่ใช้เวลานานกว่าจะเห็น อีกทั้งการเลือกใช้สมุนไพรยังต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเช่นกัน
- ฉีดวิตามินผิวหรือฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดวิตามินผิวหรือฉีดเมโสหน้าใสนั้นจะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้ดียิ่งขึ้น หากเลือกใช้วิตามินที่ช่วยลดการผลิตเมลานินของผิวก็จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง ทั้งนี้ต้องเลือกตัวที่มีสรรพคุณช่วยลดฝ้าจะเหมาะสมที่สุด ทว่าก็ต้องใช้เวลานานเช่นกัน
- ทำเลเซอร์รักษาฝ้าและกระ
การรักษาฝ้าและกระด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะนอกจากจะได้ผลค่อนข้างชัดเจนและรวดเร็วแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ทาง KeThat Clinic ให้บริการรักษาฝ้าและกระด้วย Pico Laser ซึ่งเป็นนวัตกรรม Laser ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยแสงเลเซอร์ความเร็วสูงถึง 1 ต่อล้านล้านวินาที จึงช่วยให้เซลล์เม็ดสีใต้ผิวหนังแตกตัวได้ละเอียด ฝ้าและกระจะจางลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่พึงพอใจของลูกค้าหลายท่าน
หากสนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางช่องทางดังต่อไปนี้
Facebook : https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)