การลดกรามด้วยโปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox) และการยกกระชับหน้าด้วยอัลเทอร่า (Ulthera) เป็นหัตถการที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับปรับรูปหน้า และเพื่อการยกกระชับให้มากยิ่งกว่า การทำทั้งสองหัตถการพร้อมกันจึงเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสม
สำหรับผู้ที่สนใจทำทั้งสองหัตถการพร้อมกัน คงมีคำถามว่า “ถ้าทำโปรแกรมโบท็อกซ์กรามแล้ว จะทำโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) ต่อได้ไหม” และ “จะทำโปรแกรมโบท็อกซ์ร่วมกับอัลเทอร่าดีมั้ย” ซึ่งคำตอบเป็นอย่างไร เราไปดูพร้อมๆ กัน
ทำความเข้าใจโปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox) กราม
โปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox) กราม คือการฉีดสาร Botulinum toxin A เข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณกรามเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว ซึ่งจะส่งผลให้รูปหน้าดูเรียวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ การทำโปรแกรมโบท็อกซ์กรามนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อบริเวณกรามใหญ่ซึ่งทำให้หน้าดูกว้าง ไม่เรียวสวยอย่างที่ต้องการ
หลังจากทำโปรแกรมโบท็อกซ์กรามแล้ว จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1 – 2 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน เป็นโปรแกรมลดกรามในคลินิกเสริมความงามที่คนนิยม เนื่องจากให้ผลลัพธ์ชัดเจน พักฟื้นน้อย มีราคาไม่สูงนัก อีกทั้งยังแทบไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ที่น่าเป็นห่วง
ทำความรู้จักกับโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera)
โปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์แบบจำเพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งพลังงานความร้อนลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า โปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) นับเป็นหนึ่งในหัตถการที่โดดเด่นด้านการยกกระชับผิวหน้า แก้ปัญหาริ้วรอยผิวหย่อนคล้อยได้ดี และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวฟื้นฟูแลดูมีสุขภาพดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วย
สำหรับการทำโปรแกรมอัลเทอร่าแต่ละครั้งจะเห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างชัดเจนใน 2 – 3 เดือน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 1 ปีหรือมากกว่านั้นหากมีการดูแลผิวที่ดีเพียงพอ
ถ้าทำโปรแกรมโบท็อกซ์กรามแล้ว ทำโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) ต่อได้ไหม
คำตอบของคำถามนี้คือ “สามารถทำได้” แต่ “ควรเว้นระยะห่างประมาณ 4 สัปดาห์” เนื่องจากความร้อนจากทำโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) นั้นส่งผลต่อตัวยาที่ใช้ในโปรแกรมโบท็อกซ์กราม ทำให้ตัวยาทำงานได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งการทำโปรแกรมอัลเทอร่ายังมีผลต่อกล้ามเนื้ออยู่พอสมควร เพราะพลังงานความร้อนจากอัลเทอร่าจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในผิวชั้นลึกด้วย จึงควรเว้นระยะเพื่อให้ตัวยาของโปรแกรมโบท็อกซ์ออกฤทธิ์เต็มที่เสียก่อน ค่อยทำโปรแกรมอัลเทอร่าต่อ จึงจะเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด
แต่ถ้าต้องการทำหัตถการทั้งสองอย่างพร้อมกันในวันเดียวกันจริงๆ แนะนำให้ทำโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) ก่อน ค่อยทำโปรแกรมโบท็อกซ์ทีหลัง ซึ่งจะปลอดภัยและช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น
ควรทำโปรแกรมโบท็อกซ์กรามคู่กับโปรแกรมอัลเทอร่าดีมั้ย
ความจริงแล้วการทำโปรแกรมโบท็อกซ์กรามร่วมกับการทำโปรแกรมอัลเทอร่านั้นเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่นิยมทำร่วมกันหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการยกกระชับหน้า เนื่องจากโปรแกรมโบท็อกซ์กรามจะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกรามลงได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ ขณะที่โปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) จะช่วยเรื่องยกกระชับผิวหน้าได้อย่างดี และทำให้แนวกรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น ทั้งสองหัตถการจึงช่วยส่งเสริมกันและกันเป็นอย่างดี
ถ้าต้องการให้ใบหน้าดูเรียวสวยแบบ V-Shape การทำโปรแกรมโบท็อกซ์กรามร่วมกับโปรแกรมอัลเทอร่าเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่นับว่าให้ผลลัพธ์ได้ตอบโจทย์ทีเดียว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการทำโปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox) กรามร่วมกับการทำโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) จะเห็นผลลัพธ์การยกกระชับใบหน้าที่ดีขึ้น แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากปัญหาของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน หัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาจึงแตกต่างกัน
หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการยกกระชับหน้าด้วยโปรแกรมโบท็อกซ์กรามและโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) โดยแพทย์ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic (มี 2 สาขา ได้แก่ สาขารางน้ำ และ สาขาสุขุมวิท 49) ได้ทางช่องทางต่อไปนี้
KeThat Clinic สาขารางน้ำ: โทร. 09 7153 4680
KeThat Clinic สาขาสุขุมวิท 49: โทร. 09 4203 4151
Facebook: https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)