บางคนต้องการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เพราะเป็นหัตถการยอดนิยมที่ช่วยแก้ปัญหาบนใบหน้าได้หลากหลาย เช่น ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า แต่กลัวว่าจะเจ็บ จึงยังไม่กล้าเข้าไปฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ในคลินิกเสริมความงามทั้งๆ ที่สนใจ
ในบทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจให้แก่ผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่กลัวเจ็บว่า การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) นั้นอันที่จริงแล้วเจ็บไหม แล้วจะทำอย่างไรให้รู้สึกเจ็บน้อยลง ไปดูกัน
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เจ็บไหม
เป็นคำถามยอดนิยมของมือใหม่ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด เข้าไปใต้ผิว หลายคนจึงกลัวว่าจะรู้สึกเจ็บเมื่อต้องฉีดฟิลเลอร์ แต่ความจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) นั้น แพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามจะทาหรือฉีดยาชาให้แก่ผู้เข้ารับบริการก่อนอยู่แล้ว อีกทั้งฟิลเลอร์บางรุ่นบางยี่ห้อก็มีส่วนผสมของยาชาด้วย ซึ่งยาชาจะทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวชาและไร้ความรู้สึกชั่วคราว เมื่อฉีดฟิลเลอร์ไปจะแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย
นอกจากนี้ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำหัตถการในคลินิกเสริมความงามก็มีส่วนทำให้รู้สึกเจ็บได้มากหรือน้อยลง ถ้าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานก็จะมีเทคนิคที่ช่วยลดอาการเจ็บและอาการอักเสบหลังจากฉีดฟิลเลอร์ได้เช่นกัน
ทำอย่างไรให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเจ็บน้อยลง
แม้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามจะทาหรือฉีดยาชาให้อยู่แล้ว แต่ยังมีวิธีช่วยบรรเทาความเจ็บ หรือป้องกันไม่ให้เจ็บมากกว่าเดิม ดังต่อไปนี้
- งดการทำหัตถการต่างๆ บนใบหน้า เช่น การทำเลเซอร์ต่างๆ การนวดหน้า การแว็กซ์ขน การกดสิว ฯลฯ อย่างน้อย 3 – 7 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ผิวหน้าได้ฟื้นฟูตัวเอง ป้องกันไม่ให้เกิดอาการช้ำ หรือทำให้เจ็บมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องฉีดฟิลเลอร์
- งดการรับประทานยาหรือวิตามินประเภทที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดหรือกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพราะอาจทำให้มีอาการช้ำ บวมแดง หลังจากฉีดฟิลเลอร์
- หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติแพ้ยา ควรแจ้งต่อแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามผู้ทำหัตถการ เพราะในตัวยาชาหรือฟิลเลอร์อาจมีสารบางชนิดที่ผู้เข้ารับบริการแพ้ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงหรือหาวิธีอื่นที่เหมาะสม
- งดใช้สกินแคร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวประมาณ 3 – 7 วันก่อนทำหัตถการ เช่น สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Retinoids Glycolic, BHA หรือ AHA เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองเมื่อต้องฉีดฟิลเลอร์
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 3 – 7 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อีกทั้งยังทำให้เส้นเลือดขยายตัว หากฉีดฟิลเลอร์แล้วอาจทำให้แผลหายช้า มีรอยช้ำ และมีอาการบวมมากกว่าที่ควร
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ให้เจ็บน้อยลง
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แรกๆ อาจยังมีอาการเจ็บ ปวด ระบม และมีอาการบวมอยู่บ้าง ซึ่งการปฏิบัติตัวต่อไปนี้จะช่วยลดความเจ็บปวดและลดอาการอักเสบได้
- อย่าสัมผัส กด จับ บีบ คลึง นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะนอกจากจะทำให้เจ็บระบมแล้ว ยังอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนจนเสียรูปได้อีกด้วย ควรทิ้งไว้อย่างน้อย 14 วัน
- พยายามอย่าขยับใบหน้าบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- เวลาล้างหน้าไม่ควรขยี้หรือนวดแรงๆ และควรล้างหน้าในน้ำอุณหภูมิปกติ อย่าล้างหน้าในน้ำร้อน
- หลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ชนิดผลัดเซลล์ผิว เพราะจะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้
- หากมีอาการบวม สามารถประคบเย็นได้ด้วยการใช้น้ำแข็งที่สะอาดหรือใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดชุบน้ำเย็น แต่ระวังอย่ากดแรงเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- หากรู้สึกปวด เจ็บ ระบม สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic ได้ทางช่องทางต่อไปนี้
Facebook : https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)