ปากกระจับ เป็นทรงปากยอดนิยมสำหรับผู้เข้ารับบริการในคลินิกเสริมความงาม เนื่องจากเป็นทรงปากที่สวย ดูมีเสน่ห์ และทำให้รูปหน้าโดยรวมดูละมุนมีมิติยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีผลในเรื่องความเชื่ออย่างเรื่องของโหงวเฮ้งอีกด้วย ซึ่งปากกระจับนั้นสามารถทำได้สองวิธี คือ การผ่าตัด และ การฉีดฟิลเลอร์
ปากแบบไหนควรทำปากกระจับ
สำหรับคนที่ต้องการทำปากกระจับนั้น โดยมากมักมาจากปัญหาของรูปทรงปากที่ทำให้เสียความมั่นใจ เช่น ปากหนา ปากใหญ่ ปากมีทรงไม่ชัด ปากคว่ำ ปากบาง ปัญหาเหล่านี้สามารถมาทำปากกระจับได้ ซึ่งการจะทำปากกระจับด้วยวิธีใดนั้นควรปรึกษาแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามที่เข้ารับบริการก่อน เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การผ่าตัดปากกระจับ กับ การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ควรเลือกวิธีไหนดี
เป็นอีกข้อสงสัยของคนที่สนใจทำปากกระจับว่าควรเลือกทำปากกระจับด้วยวิธีไหน ซึ่งทั้งสองวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ดังนี้
ข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัดปากกระจับ
- การผ่าตัดปากกระจับจะทำให้ได้รูปปากที่ถาวร ไม่ต้องทำใหม่ซ้ำๆ
- เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากหนา ปากไม่เป็นทรง ปากคว่ำ
- แต่ทั้งนี้การผ่าตัดจำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำหัตถการ เพราะหากผิดพลาดอาจทำให้มีปัญหาด้านเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้อในการพูด
- เมื่อผ่าตัดไปแล้ว หากไม่พอใจจะแก้ไขได้ยาก
- จำเป็นต้องพักฟื้นนาน การดูแลหลังผ่าตัดค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาด
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ
- การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับจะทำให้ได้รูปปากตามที่ต้องการ ปากดูอิ่มมีน้ำมีนวล
- เหมาะกับผู้ที่มีปากบาง ริมฝีปากไม่หนา
- การฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยฟิลเลอร์ของแท้นั้นปลอดภัย ไม่ค่อยมีปัญหาภายหลัง
- แต่การฉีดฟิลเลอร์ปากจะอยู่ไม่คงทนถาวร เพราะฟิลเลอร์จะสลายไปเองโดยใช้เวลาประมาณ 6 – 12 เดือน
- เพราะฟิลเลอร์ปากกระจับที่ฉีดนั้นไม่อยู่ถาวร ทำให้ถ้าเกิดความผิดพลาดหรือไม่พอใจผลลัพธ์ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ
- การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับไม่ต้องพักฟื้นนาน แถบไม่มีรอยแผล และดูแลตัวเองหลังทำได้ง่าย
ฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ได้ปากกระจับ
การจะฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับนั้นขึ้นอยู่กับรูปทรงของปากว่าเหมาะสมหรือไม่และทำได้มากน้อยแค่ไหน คนที่เหมาะจะฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับต้องเป็นคนที่มีปากไม่หนามาก หรือกปากค่อนข้างบาง ซึ่งเมื่อแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามประเมินแล้วว่าสามารถทำปากกระจับได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็จะจัดการเติมฟิลเลอร์ในแต่ละจุดที่เหมาะสม เช่น ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มบริเวณริมฝีปากบน เติมปากให้มีขอบหยัก เติมเนื้อปากล่างให้เข้ากับปากบน เพื่อให้ปากกลายเป็นรูปกระจับ เข้ากับรูปหน้า
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยยกมุมปากขึ้นให้กลายเป็นปากกระจับได้อย่างสมบูรณ์
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับใช้ฟิลเลอร์กี่ cc
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับนั้นใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณไม่มาก โดยปกติจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1 cc ก็เพียงพอ แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสด้วย ในบางเคสอาจต้องใช้ฟิลเลอร์ถึง 2 cc และถ้าหากจำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพิ่ม ก็จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2 – 3 cc เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเพื่อฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic ได้ทางช่องทางต่อไปนี้
Facebook : https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)