โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในคลินิกเสริมความงามมาเสมอ เพราะใช้ได้ทั้งในเรื่องการปรับรูปหน้า เสริมเติมแต่งในส่วนที่ขาด ทำให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น แก้ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบ นอกจากนี้ยังช่วยยกกระชับและฟื้นฟูผิวได้ดีอีกด้วย
แต่แม้ว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะปลอดภัย และสารเติมเต็มที่ใช้จะเป็นของจริงได้มาตรฐาน แต่ก็ยังคงมี “ความเสี่ยง” บางประการที่ควรรู้ เพื่อระมัดระวังผลไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเข้ารับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คืออะไร
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ผิว ซึ่งสารนี้จะช่วยเติมเต็มในบริเวณที่ขาดพร่อง เช่น หน้าตอบ แก้มตอบ ขมับตอบ รวมไปถึงการปรับรูปหน้า เช่น การปรับรูปหน้าให้เท่ากัน การเพิ่มคางให้สมดุล การปรับรูปปาก ฯลฯ นอกจากนี้ยังช่วยยกกระชับผิว ยกกระชับกรอบหน้าได้อีกด้วย
ด้วยความหลากหลายในการใช้ทำหัตถการซึ่งตอบโจทย์ด้านความงาม จึงทำให้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมอย่างมากในคลินิกเสริมความงาม
ความเสี่ยงของการฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง
แม้ว่าสารเติมเต็มที่ใช้ในคลินิกเสริมความงามจะเป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายน้อยมากหรือไม่ส่งผลใดๆ เลย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงบางประการที่ต้องระมัดระวัง ดังนี้
- อาการบวมช้ำ บวมแดง หรือเจ็บปวดหลังฉีด เป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่พบได้ใน 1 – 3 วันแรกหลังฉีด เนื่องจากการฉีดสารเติมเต็มนั้นเนื้อเยื่อจะถูกรบกวนจากเข็มฉีด แต่อาการเหล่านี้มักหายได้เองภายในไม่ 3 – 7 วัน แต่หากมีอาการปวดหรือบวมช้ำรุนแรงควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- คลำเจอก้อนของสารเติมเต็มใต้ผิว อาจเกิดจากสารเติมเต็มที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน หรือผู้ทำหัตถการฉีดสารเติมเต็มผิดวิธี รวมไปถึงการเลือกชนิดและปริมาณของสารเติมเต็มไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด หากเป็นเล็กน้อยสามารถปล่อยไปได้ โดยสารเติมเต็มจะค่อยๆ กลืนไปกับผิวเองเมื่อครบ 1 – 2 เดือน แต่ถ้าเป็นมากๆ อาจต้องฉีดสลายด้วยสาร Hyaluronidase
- การอุดตันของหลอดเลือด (Vascular Occlusion) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อยแต่ต้องระวังมากที่สุด หากผู้ทำหัตถการฉีดสารเติมเต็มลึกเกินไปหรือฉีดเข้าไปในหลอดเลือดโดยตรง อาจทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ หากไม่รีบแก้ไขอาจเกิดภาวะเนื้อตายซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
- สารเติมเต็มไหลไปจากจุดเดิมหรือเปลี่ยนรูป หากฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ในตำแหน่งที่มีการขยับบ่อยๆ บนส่วนต่างๆ ของใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือริมฝีปาก สารเติมเต็มอาจเคลื่อนตัวได้ โดยเฉพาะหากเป็นสารเติมเต็มคุณภาพต่ำ หรือมีการฉีดสารเติมเต็มในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม
- เกิดการติดเชื้อ แม้โอกาสจะน้อยหากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ในคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าดูแลตัวเองไม่ดีหลังฉีด หรือคลินิกเสริมความงามแห่งนั้นไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีดได้เช่นกัน
- เกิดอาการแพ้ (พบได้น้อยมาก) สารเติมเต็มที่ใช้ในโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้วและย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ แต่บางคนอาจมีอาการแพ้ได้เช่นกัน โดยจะมีอาการคันบริเวณที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดง มีตุ่มหรือก้อนหนอง บางคนอาจมีผื่นแดงขึ้นบนผิว และมีอาการอักเสบ หากมีอาการดังที่กล่าวมานี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วิธีลดความเสี่ยงจากการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
- เลือกฉีดกับแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ สามารถตรวจสอบว่าเป็นแพทย์จริงๆ ได้จากการนำชื่อและนามสกุลของแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามไปเช็กกับทางแพทยสภา
- เลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน มีเลขที่และใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างชัดเจน
- ตรวจสอบสารเติมเต็มที่แพทย์จะนำมาฉีดให้ก่อนว่าเป็นของแท้และได้รับการรับรองจากทาง อย.
- หากมีอาการแพ้อาหาร ยา หรือสารใดๆ ควรแจ้งแพทย์ประจำคลินิกเสริมความงามก่อนทำหัตถการอย่างละเอียด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังทำหัตถการอย่างเคร่งครัด
หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการรักษาด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) โดยแพทย์ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic (มี 2 สาขา ได้แก่ สาขารางน้ำ และ สาขาสุขุมวิท 49) ได้ทางช่องทางต่อไปนี้
KeThat Clinic สาขารางน้ำ: โทร. 09 7153 4680
KeThat Clinic สาขาสุขุมวิท 49: โทร. 09 4203 4151
Facebook: https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)
