ใบหน้าที่ดู “ละมุน” คือใบหน้าที่มีความสมดุล ไม่ดูโทรมหรือแข็งกระด้าง ซึ่งการทำหัตถการเพื่อให้ใบหน้าดูละมุนนั้นไม่ใช่การเปลี่ยนรูปหน้าไปอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นการปรับให้สัดส่วนใบหน้าดูเข้ารูปและมีมิติ จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่และไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ซึ่งในปัจจุบันมีหัตถการที่ช่วยให้ใบหน้าละมุนขึ้นได้โดยเห็นผลลัพธ์ที่ดี ได้แก่ การทำโปรแกรมเติมฟิลเลอร์ (Filler) และการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botox)

ทั้งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์มีข้อดีข้อเสีย และช่วยทำให้ใบหน้าละมุนได้อย่างไร ไปดูกัน

 

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เติมเต็มใบหน้าให้อิ่มฟูและดูสมดุล

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ คือ การเติมสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีและมีความยืดหยุ่นเข้าไปใต้ผิวในบริเวณที่ต้องการ ผิวบริเวณดังกล่าวจะเต็มขึ้นและเต่งตึงขึ้น

 

บริเวณใดบ้างที่ทำโปรแกรมเติมฟิลเลอร์แล้วหน้าจะละมุนขึ้น

  • หน้าผาก: สำหรับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน การเติมฟิลเลอร์จะทำให้หน้าผากนูนขึ้น รับกับใบหน้าส่วนอื่นๆ
  • ขมับ: โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาขมับตอบ ขมับเว้า ขมับยุบ การเติมฟิลเลอร์ตรงส่วนนี้จะทำให้หน้าดูละมุนขึ้น ส่วนขมับรับกับส่วนแก้มมากขึ้น
  • แก้มส้มและร่องแก้ม: ถ้ามีปัญหาแก้มตอบ โหนกแก้มสูง การเติมฟิลเลอร์บริเวณแก้มส้มและร่องแก้มจะช่วยลดความเด่นของโหนกแก้มลง
  • ใต้ตา: ลดความลึกและความหมองคล้ำ ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
  • ริมฝีปาก: การเติมฟิลเลอร์เล็กน้อยจะทำให้ริมฝีปากดูอิ่มสวย
  • คาง: สำหรับคนที่มีคางสั้น คางบุ๋ม คางตัด การเติมฟิลเลอร์บริเวณคางจะช่วยให้ใบหน้ายาวขึ้น และดูสมดุล
  • กรอบหน้า: การเติมฟิลเลอร์จะช่วยยกกระชับใบหน้าให้เข้ารูปมากยิ่งขึ้น เห็นรูปทรงใบหน้าชัดขึ้น

ข้อดี คือ เห็นผลลัพธ์ได้ทันที และคงอยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน

ข้อเสีย คือ ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้จะไม่คงทนถาวร เพราะจะสลายไปตามธรรมชาติ จำเป็นต้องฉีดเพิ่มเป็นระยะๆ และมีราคาสูงพอสมควร

 

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ช่วยลดความแข็งกระด้างของกล้ามเนื้อ

การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (Botox) คือ การฉีดสาร Botulinum Toxin A ที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการ เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ละมุนขึ้นโดยไม่เน้นเติมเต็ม แต่เน้นการลดความแข็งกระด้างของกล้ามเนื้อบางจุด

 

บริเวณใดบ้างที่ทำโปรแกรมโบท็อกซ์แล้วหน้าจะละมุนขึ้น

  • กราม: ช่วยลดขนาดของกรามที่ทำให้หน้าดูดุ ช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้น เข้ารูปมากขึ้น
  • ริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า: รอยย่นระหว่างคิ้ว หน้าผาก หางตา เหล่านี้จะทำให้ดูมีอายุและดูโทรม การลดริ้วรอยต่างๆ จะทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์และละมุนขึ้น
  • ยกหางคิ้ว หางตา และมุมปาก: เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาหางคิ้วหางตาตก มุมปากตก การยกคิ้ว หางตา และมุมปากขึ้น จะทำให้ใบหน้าดูละมุนและอ่อนเยาว์
  • กรอบหน้า: เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยยกกระชับกรอบหน้าได้ดี ทำให้กรอบหน้าดูเรียวสวยเข้ารูปมากขึ้น

ข้อดี คือ ไม่ต้องพักฟื้นนาน และอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน และมีราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น

ข้อเสีย คือ หากฉีดบ่อยๆ อาจมีอาการดื้อยา

 

ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ร่วมกันได้หรือไม่

คำตอบคือ สามารถทำได้ และในบางเคสบางกรณี แพทย์ประจำคลินิกเสริมความจะแนะนำให้ทำร่วมกัน เพราะทั้งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ต่างมีจุดเด่นและข้อจำกัดของตัวเอง อย่างโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะเน้นการเติมเต็ม ขณะที่โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะเน้นการลดขนาดกล้ามเนื้อ การทำร่วมกันเพื่อเสริมจุดเด่นและปิดจุดด้อยจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการรักษาด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic (มี 2 สาขา ได้แก่ สาขารางน้ำ และ สาขาสุขุมวิท 49) ได้ทางช่องทางต่อไปนี้

KeThat Clinic สาขารางน้ำ: โทร. 09 7153 4680

KeThat Clinic สาขาสุขุมวิท 49: โทร. 09 4203 4151

Facebook: https://www.facebook.com/kethatclinic

Website: https://kethat.com/price-promotion/

LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)