แม้ว่าโปรแกรม Ulthera และโปรแกรม Ultraformer จะมีชื่อคล้ายกัน มีการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ในการรักษาเหมือนกัน อีกทั้งยังโดดเด่นด้านการยกกระชับผิวหน้าเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองหัตถการนี้มีความแตกต่างกันทั้งด้านราคา ประสิทธิภาพ จุดเด่นจุดด้อย ซึ่งเราจะทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กัน
เทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ที่นำมาใช้เพื่อการรักษาในคลินิกเสริมความงามคืออะไร
สำหรับการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ “เพื่อการรักษา” ในคลินิกเสริมความงามที่พบเห็นกันได้บ่อยๆ นั้นจะเป็นการส่งพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงลงไปใต้ผิวหนังจนก่อให้เกิดความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 60 – 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเนื้อเยื่อที่ได้รับความร้อนในระดับนี้จะเกิดการหดตัว เซลล์ผิวจะมีการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวขึ้นมาใหม่ เป็นการปรับโครงสร้างผิวจากภายใน ผิวจะกระชับขึ้น เต่งตึงขึ้น ริ้วรอยจะลดลง
นวัตกรรมเสริมความงามที่ใช้เทคโนโลยีนี้จึงโดดเด่นด้านการยกกระชับอย่างยิ่ง เพราะสามารถส่งพลังงานลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า และหัตถการประเภทนี้ที่ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงามคือ โปรแกรม Ulthera และโปรแกรม Ultraformer
โปรแกรม Ulthera คืออะไร
โปรแกรม Ulthera เป็นหนึ่งในหัตถการที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวนด์ในการรักษาด้วยหลักการข้างต้น แต่ลักษณะของคลื่นอัลตราซาวนด์ที่ใช้ในโปรแกรม Ulthera นั้นจะเป็น Microfocus Ultrasound with Visualization ซึ่งจะเป็นการยิงคลื่นอัลตราซาวนด์แบบจำเพาะเจาะจงลงไปใต้ผิวหนังบริเวณที่ต้องการยกกระชับ โดยมีขนาดจุดโฟกัสอยู่ที่ราวๆ 1 มิลลิเมตร จึงมีพลังงานสูง อีกทั้งยังมีหน้าจอแสดงรายละเอียดให้แก่แพทย์ผู้ทำหัตถการ จึงมีความแม่นยำ ช่วยเรื่องการยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระยะเวลาเห็นผล: หลังทำครั้งแรก จะเริ่มเห็นผลประมาณ 20 – 30% และจะเห็นผลชัดเต็มที่ประมาณ 2 – 3 เดือน ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และการดูแลตัวเองของผู้เข้ารับบริการ
ราคา: มีราคาค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อต (shot) ที่ใช้ในการรักษา
โปรแกรม Ultraformer คืออะไร
โปรแกรม Ultraformer เรียกอีกอย่างว่า “โปรแกรม HIFU” ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง โดยจะใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวนด์แบบ High Intensity Focused Ultrasound (HIFU) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่เริ่มทำหัตถการยกกระชับผิวในราคาที่เข้าถึงง่าย และต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยขนาดจุดโฟกัสจะอยู่ที่ราวๆ 0.3 – 0.5 มิลลิเมตร แต่ในบางรุ่นอาจจะให้ขนาดจุดที่ใหญ่กว่านี้เล็กน้อย
ระยะเวลาเห็นผล: เห็นผลเล็กน้อย และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นภายใน 2 – 3 เดือน ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง อายุ และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ราคา: ไม่สูงมากนัก ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อต (shot) ที่ใช้ในการรักษา
โปรแกรม Ulthera กับโปรแกรม Ultraformer แตกต่างกันอย่างไร
แม้ว่าโปรแกรม Ulthera กับโปรแกรม Ultraformer จะใช้เทคโนโลยีคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างกัน ดังนี้
- โปรแกรม Ulthera ได้รับการพัฒนาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนโปรแกรม Ultraformer ได้รับการพัฒนาจากประเทศเกาหลี
- พลังงานที่ใช้ในการทำโปรแกรม Ulthera จะสูงกว่าพลังงานที่ใช้ในการทำโปรแกรม Ultraformer แต่ละครั้ง ทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกเจ็บกว่า แต่ประสิทธิภาพที่ได้ก็จะชัดเจนกว่า และคงอยู่ได้นานกว่า
- โปรแกรม Ulthera จะมีหน้าจอแสดงโครงสร้างใบหน้าของผู้เข้ารับบริการ เพิ่มความแม่นยำในการทำหัตถการแต่ละครั้ง
- สำหรับเรื่องรีวิวนั้น โปรแกรม Ulthera ผู้ใช้บริการจะค่อนข้างพอใจในผลลัพธ์ที่ชัดเจน ขณะที่โปรแกรม Ultraformer ก็มีรีวิวเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะเห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจนนักในช่วงแรกที่ทำ จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อยกว่า
- เรื่องของราคา โปรแกรม Ulthera จะมีราคาที่สูงกว่า เพราะใช้พลังงานและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและละเอียดอ่อนกว่าโปรแกรม Ultraformer อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่าด้วย
ควรเลือกทำโปรแกรมไหนถึงจะดีที่สุด
หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก ต้องการการยกกระชับที่เห็นผลชัดเจน คงอยู่ได้นาน และมีงบประมาณเพียงพอ โปรแกรม Ulthera จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้ามีปัญหาผิวไม่มากนัก อยากลองยกกระชับผิวในงบประมาณที่ย่อมเยากว่า โปรแกรม Ultraformer ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี
หากต้องการเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการรักษาด้วยโปรแกรม Ulthera และโปรแกรม Ultraformer โดยแพทย์ สามารถติดต่อสอบถามทาง KeThat Clinic (มี 2 สาขา ได้แก่ สาขารางน้ำ และ สาขาสุขุมวิท 49) ได้ทางช่องทางต่อไปนี้
KeThat Clinic สาขารางน้ำ: โทร. 09 7153 4680
KeThat Clinic สาขาสุขุมวิท 49: โทร. 09 4203 4151
Facebook: https://www.facebook.com/kethatclinic
Website: https://kethat.com/price-promotion/
LINE: @kethat (มี @ นำหน้า)